ประเทศคอสตาริกา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สาธารณรัฐคอสตาริกา
República de Costa Rica (สเปน)
ธงชาติ ตราแผ่นดิน
คำขวัญ¡Vivan siempre el trabajo y la paz! ("การงานและสันติภาพจงเจริญชั่วกาลนาน !")
เพลงชาติเพลงชาติคอสตาริกา
เมืองหลวง
(และเมืองใหญ่สุด)
ซานโฮเซ
9°56′N 84°5′W / 9.933°N 84.083°W / 9.933; -84.083
ภาษาราชการ ภาษาสเปน
การปกครอง สาธารณรัฐประชาธิปไตย
 -  ประธานาธิบดี ลุยส์ กีเยร์โม โซลิส
เอกราช
 -  จาก สเปน 15 กันยายน พ.ศ. 2364 
พื้นที่
 -  รวม 51,100 ตร.กม. (129)
19,725 ตร.ไมล์ 
 -  แหล่งน้ำ (%) 0.7%
ประชากร
 -  2552 (ประเมิน) 4,579,000 (118)
 -  ความหนาแน่น 81.40 คน/ตร.กม. (107)
210.8 คน/ตร.ไมล์
จีดีพี (อำนาจซื้อ) 2548 (ประมาณ)
 -  รวม 40.32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (79)
 -  ต่อหัว 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (63)
HDI (2543) 0.838 (สูง) (47)
สกุลเงิน โกลอน (CRC)
เขตเวลา (UTC-6)
โดเมนบนสุด .cr
รหัสโทรศัพท์ 506

คอสตาริกา (สเปน: Costa Rica) หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐคอสตาริกา (สเปน: República de Costa Rica) เป็นประเทศในภูมิภาคอเมริกากลาง มีอาณาเขตจรดประเทศนิการากัว ทางทิศเหนือ จรดประเทศปานามาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จรดมหาสมุทรแปซิฟิกทางทิศตะวันตกและทิศใต้ และจรดทะเลแคริบเบียนทางทิศตะวันออก ประเทศนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของภูมิภาคในเรื่องการมีเสถียรภาพทางการเมือง และบางครั้งได้ชื่อว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์ของอเมริกากลาง"

ภูมิศาสตร์[แก้]

มีพื้นที่ประมาณ 50,000 ตารางกิโลเมตร เทียบกับประเทศไทยแล้วเล็กกว่ากันถึง 10 เท่า มีจำนวนประชากรเพียง 5 ล้านคน เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ทำให้มีพืชพันธุ์ไม้อุดมสมบูรณ์ที่ไม่สามารถพบได้ในประเทศอื่น มีพื้นที่เป็นเขตป่าสงวนมากถึงร้อยละ 25 ของประเทศ และถือเป็นประเทศแรกในทวีปอเมริกาที่ออกกฎหมายห้ามล่าสัตว์ทุกชนิด และเคยถูกมูลนิธินิวอีโคโนมิค (NEF) ประกาศให้เป็นประเทศที่มีความเขียวชอุ่ม หรือมีป่าไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดในโลกอีกด้วย[1]

ประวัติศาสตร์[แก้]

ดูบทความหลักที่: ประวัติศาสตร์คอสตาริกา

ยุคก่อนอาณานิคม[แก้]

ยุคอาณานิคมสเปน[แก้]

ยุครัฐชาติสมัยใหม่[แก้]

การเมืองการปกครอง[แก้]

รูปแบบการปกครอง ประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข

ประธานาธิบดี ภายใต้รัฐธรรมนูญซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งได้เป็นระยะเวลา 4 ปีเพียงครั้งเดียว นาย Oscar ARIAS Sanchez (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2549) นาง Laura Chinchilla จากพรรค (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2553)

ฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นระบบรัฐสภาเดียว มีสมาชิกสภานิติบัญญัติที่มาจากการเลือกตั้ง 57 คน มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ฝ่ายตุลาการ ศาลสูงสุดของประเทศ (Supreme Court) มาจากการเลือกตั้งโดย สมาชิกสภานิติบัญญัติ มีวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี การเลือกตั้งครั้งต่อไป กุมภาพันธ์ 2548 พรรคการเมืองสำคัญ Social Christian Unity Party (PUSC) (พรรครัฐบาล) Democrat Party National Liberation Party (Partido Liberacion Nacional)

การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]

สำหรับบทความหลักในหมวดหมู่นี้ ดู จังหวัดของประเทศคอสตาริกา

แผนที่จังหวัดของประเทศคอสตาริกา

คอสตาริกาแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 7 จังหวัด ได้แก่

  1. อาลาฮูเอลา (ภาคกลาง; ทางเหนือของเมืองหลวงซันโฮเซ)
  2. การ์ตาโก
  3. กวานากัสเต (ตะวันตกเฉียงเหนือ)
  4. เอเรเดีย
  5. ลีมอน (มีพื้นที่เลียบชายฝั่งทะเลแคริบเบียน)
  6. ปุนตาเรนัส (เลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกส่วนใหญ่ จากนั้นจึงมีพื้นที่โป่งกว้างทางตะวันตกเฉียงใต้และทางเหนือ สิ้นสุดทั้งสองส่วนที่อ่าวนีโกยา ซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองหลวงของจังหวัดที่มีชื่อเดียวกัน)
  7. ซานโฮเซ (พื้นที่รอบเมืองหลวง)


นโยบายการต่างประเทศ[แก้]

ความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกา[แก้]

คอสตาริกาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในการดำเนินความร่วมมือภายใต้กรอบ Organization of the American States (OAS) และความใกล้ชิดกับสหรัฐฯ โดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันประเทศซึ่งคอสตาริกาได้ยกเลิกกองกำลังทหาร ตั้งแต่ปี 2492นอกจากนี้ คอสตาริกายังให้ความสำคัญกับการต่อต้านการค้ายาเสพติด โดยเป็นประเทศแรกในอเมริกากลางที่ลงนามใน Maritime Counter-Narcotics Agreement กับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นความร่วมมือเพื่อต่อต้านการลักลอบขนส่งยาเสพติดในน่านน้ำคอสตาริกา

กองทัพ[แก้]

คอสตาริกาเป็นประเทศเดียวในโลกไม่มีกองทัพ[2]

เศรษฐกิจ[แก้]

ข้อมูลดัชนีเศรษฐกิจ[แก้]

ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจของคอสตาริกาประจำเดือนธันวาคม 2553 ชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศยังเติบโตต่ำ และเป็นไปในแนวทางเดียวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวลดลงเรื่อยๆ ตลอดปีที่ผ่านมา เมื่อเดือนธันวาคม 2553 อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศลดลงอีกร้อยละ 2.3จากเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 ไปอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี มีบางภาคเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวได้ ได้แก่ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการ ซึ่งขยายตัวร้อยละ 9.10 รวมทั้งอุตสาหกรรมการขนส่ง การสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งขยายตัวร้อยละ 6.42 ส่วนภาคเศรษฐกิจอื่นๆ ไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากนัก ในขณะที่ภาคธุรกิจก่อสร้าง การผลิตภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งภาคการเหมืองแร่ และเหมืองหินมีอัตราการเจริญเติบโตที่ติดลบ

สินค้าส่งออกของคอสตาริกาที่สำคัญและถือเป็นสินค้าที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุด คือ กล้วยหอม[3]

เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ[แก้]

ในปี 2553 คอสตาริกามีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศประมาณ 4.584 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

โครงสร้างการผลิตภายในประเทศ[แก้]

  1. ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (2549) 22.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  2. อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (2550/strong> ร้อยละ 7
  3. รายได้ประชาชาติต่อหัว (2550) 13,500 ดอลลาร์สหรัฐ/คน/ปี
  4. หนี้ต่างประเทศ (2550) ร้อยละ 7.163 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  5. เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ (พ.ค.2550) 3.59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  1. สินค้าเกษตรสำคัญ กล้วย (คอสตาริกาเป็นผู้ส่งออกกล้วยมากเป็นอันดับสองของโลกรองจากเอกวาดอร์) กาแฟ เมล็ดโกโก้ ข้าว และถั่ว
  2. สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ อาหารและเครื่องดื่ม สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์ กระดาษ เคมีภัณฑ์พลาสติก และผลิตภัณฑ์ยาง
  3. สินค้าบริการสำคัญ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (ทำรายได้เข้าประเทศกว่าร้อยละ 60)
  1. การนำเข้า มูลค่า 11.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2550) ในปี 2553 มูลค่า 13.32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  2. สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ
    1. น้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เวชภัณฑ์ และสิ่งก่อสร้าง
    2. ส่วนประกอบและอุปกรณ์ของเครื่องประมวลผล วงจร รวมโมโนลิทิก กระดาษคราฟต์
  3. ประเทศคู่ค้าตลาดนำเข้าหลัก
    1. สหรัฐอเมริกา ร้อยละ 44.72
    2. เม็กซิโก ร้อยละ 7.65
    3. ญี่ปุ่น ร้อยละ 4.36
    4. บราซิล ร้อยละ
    5. เวเนซุเอลา ร้อยละ 5.56
    6. จีน ร้อยละ 5.15
  1. การส่งออก มูลค่า 9.232 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2550) ในปี 2553 มูลค่า 10.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ()
  2. สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ
    1. ผลิตผลการเกษตร อาทิ กล้วย สัปปะรด กาแฟ เมลอน พืชตกแต่ง เนื้อวัว น้ำตาล
    2. อุตสาหกรรม อาทิ สิ่งทอ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าเภสัช
  3. ประเทศคู่ค้าการส่งออกที่สำคัญได้แก่
    1. สหรัฐอเมริกา ร้อยละ 35.61
    2. เนเธอร์แลนด์ ร้อยละ 12.82
    3. จีน ร้อยละ 11.81
    4. เยอรมัน ร้อยละ
    5. กัวเตมาลา ร้อยละ
    6. นิการากัว ร้อยละ
    7. เม็กซิโก ร้อยละ 4.2

ความร่วมมือทางการค้ากับต่างประเทศ[แก้]

ความตกลงเขตการค้าเสรีพหุภาคีที่คอสตาริกาเป็นภาคีร่วมมี

1. CAFTA-DR (ความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างกลุ่มประเทศอเมริกากลาง และสาธารณรัฐคอมินิกัน กับสหรัฐอเมริกา) ลงนามเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2547 มีผลบังคับในคอสตาริกาเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552 ทั้งนี้ กลุ่มประเทศอเมริกากลางเป็นตลาดส่งออกอันดับสามในกลุ่มละตินอเมริกาสำหรับสหรัฐฯ หลังจากเม็กซิโกและบราซิล การส่งออกจากสหรัฐฯ ไปยังกลุ่มประเทศ CAFTA-DR มีมูลค่า 26.3 พันล้านเหรียญฯ ในปี 2551

2. ความตกลงเขตการค้าเสรีพหุภาคีกับกลุ่มประเทศคาริบเบียน (CARICOM) ลงนามเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2547 มีผลบังคับในคอสตาริกาเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2548 โดยมีเงื่อนไขความตกลง 4 ระดับซึ่งเจรจากันระหว่างแต่ละประเทศอีกต่างหาก ได้แก่ การเปิดเสรีอัตโนมัติ การลดภาษีใน 4 ปี ข้อยกเว้นเป็นรายสินค้า และข้อยกเว้นสำหรับสินค้าเกษตรตามฤดูกาลสำหรับความตกลงเขตการค้าเสรีในระดับทวิภาคี คอสตาริกาได้ลงนามความตกลงไว้ 5 ประเทศ คือ กับเม็กซิโก (มีผลบังคับตั้งแต่ปี 2538) แคนาดา (2544) ชิลี (2545) สาธารณรัฐโดมินิกัน (2538) และปานามา (2551) และได้เริ่มกระบวนการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีกับ ประเทศจีน เมื่อปี 2550 และกับสหภาพยุโรป (AACUE) เมื่อปี 2549

ความตกลงระหว่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ICC/CBI (Caribbean Basin Initiative-1983), GSP-Europe และ ALCA/FTAA (Free Trade Areas of the Americas-1994)

โครงสร้างพื้นฐาน[แก้]

สาธารณูปโภค[แก้]

คมนาคมและโทรคมนาคม[แก้]

มีเส้นทางการเดินทางแบบถนน 35,330 กิโลเมตร ทางรถไฟ 278 กิโลเมตร ทางน้ำ 730 กิโลเมตรที่ใช้เดินเรือได้เฉพาะเรือขนาดเล็ก สนามบิน 151 แห่ง มีท่อส่งก๊าซและน้ำมัน 796 กิโลเมตร ท่าเรือสำคัญ 2 แห่ง

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี[แก้]

สาธารณสุข[แก้]

การศึกษา[แก้]

ประชากร[แก้]

ชาวคอสตาริกาเป็นชนชาติผสมระหว่างสเปนกับชาวพื้นเมืองเดิม เรียกตัวเองว่า ตีโกส (Ticos) [4]

อ้างอิง[แก้]

  1. "เที่ยงวันทันเหตุการณ์: ข่าวกีฬา". ช่อง 3. 30 June 2014. สืบค้นเมื่อ 30 June 2014. 
  2. "รู้ไหม ?? ประเทศอะไรไม่มีทหาร". dek-d.com. 22 March 2013. สืบค้นเมื่อ 30 June 2014. 
  3. "บันทึกโลกโสภา คอสตาริกา : คน กล้วย น้ำ ป่า ปลาฉลาม (1)". loksopha.com. สืบค้นเมื่อ 30 June 2014. 
  4. นิตยสารสารคดี ฉบับ 270 หน้า 136

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

รัฐบาล
ข้อมูลทั่วไป
การท่องเที่ยว