หน้าแรกผู้จัดการ Online | หน้าแรกท่องเที่ยว | ตะลอนเที่ยว
 
สัมผัสอารมณ์ ฝนแรก หญ้าแตกใบ ใน“อช.ทุ่งแสลงหลวง”
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 พฤษภาคม 2547 17:23 น.
ยามค่ำคืนแถวหน่วยฯหนองแม่นาจะมีกวางออกมากินหญ้าระบัดกันเป็นจำนวนมาก
       แม้ว่าจะยังไม่เข้าวสันต์ฤดูอย่างเป็นทางการ แต่พระพิรุณที่โปรยปรายลงมา ก็สร้างความชุ่มฉ่ำชุ่มชื่นให้กับพื้นดินที่แล้งน้ำไปเป็นเวลานานได้ไม่น้อย
       
       พอฝนโปรย ดินชุ่มฉ่ำ ต้นไม้น้อยใหญ่ในผืนป่า ก็กลับมาเขียวชอุ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
       
       ทางด้านหญ้าที่หลบซ่อนกออยู่ใต้ดิน ก็แตกใบอ่อนเป็นหญ้าระบัดพัดพลิ้วใบล้อสายลม
       
       และเมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มกว้างไกล ตั้งแต่ช่วงฤดูฝนไปถึงฤดูหนาว “อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง” นับเป็นหนึ่งในดินแดนแห่งทุ่งหญ้าที่สวยงามระดับคลาสสิก แห่งหนึ่งในเมืองไทย และก็เป็นดินแดนที่ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” เพิ่งได้ขึ้นไปตะลอนเที่ยวมาแบบสดๆเปียกๆ

สายหมอกหน้าร้อนยามเช้าเมื่อมองจากจุดชมวิวดุสิตา
       โดยตอนที่เราไปถึงยังที่ทำการหน่วยฯหนองแม่นาในช่วงโพล้เพล้ของวันอากาศครึ้ม แต่ว่าอากาศของที่ทุ่งแสลงหลวงกับเย็นสบาย บางจังหวะก็มีสายลมเอื่อยๆพัดอ้อยอิ่งมาสัมผัสผิวกายให้เรารู้สึกได้ถึงอารมณ์ยะเยือกแห่งป่าเขายามค่ำคืน
       
       และตามประสาคนที่มีเงาและความเหงาเป็นเพื่อน หลังมื้อค่ำของวันนั้นที่มีฝนตกปรอยๆ เราก็ร่วมนั่งก๊ง กับเพื่อนร่วมก๊วนที่ร่วมเดินทางและเจ้าหน้าที่อุทยานฯ พร้อมๆกับคุยกันในเรื่องราวต่างๆมากมาย
       
       จนกระทั่งเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ฝนเริ่มเงียบ คุณบรรพต คันธเสน หัวหน้าอช.ก็ได้ชักชวน “ผู้จัดการท่องเที่ยว” และเพื่อนๆร่วมทริป ออกส่องสัตว์ยามราตรี เพราะว่าหลังฝนอย่างนี้ พวกเก้ง กวาง นอยมออกมาและเล็มกินหญ้าอ่อนกันเป็นจำนวนมาก
       
       นอกจากนี้กิจกรรมส่องสัตว์ ในอนาคตทางอุทยานฯก็มีแผนว่าจะบรรจุให้เป็นหนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวของทุ่งแสลงหลวง โดยเฉพาะช่วงที่เริ่มมีฝนแรกโปรยปรายลงมาสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นดิน พร้อมๆกับการเติบโตของหญ้าอ่อน หรือหญ้าระบัดเต็มท้องทุ่ง

ต้นแสลงใจหนึ่งในที่มาของทุ่งแสลงหลวง
       สำหรับหญ้าอ่อนพวกนี้ นอกจากโคแก่อย่างเพื่อนๆเราหลายคน ที่ร่วมนั่งรถไปส่องสัตว์ จะชอบกินแล้ว พวกเก้ง กวาง อีเห็น ชะมด ก็ชอบออกมากินเช่นกัน
       
       โดยในคืนวันนั้นสัตว์ที่ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” เห็นแบบตัวเป็นๆมากินหญ้าอ่อน ก็จะเป็นพวกเก้ง กวาง ประมาณ 20 ตัว และก็มีชะมดวิ่งมาจ้องแสงไฟให้ดูตื่นเต้นขึ้นอีก 1 ตัว
       
       ก่อนที่เราจะอำลาจากการส่องสัตว์ กลับสู่ที่พัก ปฏิบัติภารกิจกันตามอัธยาศัย โดยเพื่อนเราบางคนก็เลือกนั่งก๊งต่อ ส่วนบางคนก็รีบเข้านอนเพราะติดนิสัยเด็กอนามัยมาจนชิน
       
       สำหรับเราแล้ว คืนนี้เลือกที่จะไปนั่งดูดาวยามราตรี เติมอารมณ์สุนทรีก่อนเข้านอน แม้ว่าจะไม่ค่อยมีดาวให้เห็นมากนักเนื่องจากอากาศหลังฝนยังคงทึบทึมอยู่ แต่ว่าเราก็ใช้จินตนาการสร้างดาวขึ้นมาในจิตใจนับหลายล้านดวง ก่อนที่จะเข้าไปนอนหลับอุตุในที่พักของอุทยานฯ
       
        .................................................
       
       ...อากาศของเช้าวันใหม่ ในอช.ทุ่งแสลงค่อนข้างเย็น...
       
       ในเช้าวันนี้พวกเราเลือกตื่นกันแต่เช้ามืด(ประมาณ ตี 5 ครึ่ง) เพื่อออกเดินทางไปชมอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า ที่จุดชมวิวดุสิตา (ใช้เวลาจากหน่วยฯหนองแม่นาประมาณ 20 นาที) ซึ่งถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าเป็นดวงแดงกลมโตเนื่องจากวันนั้นฟ้าปิด แต่ว่าเราก็ได้เห็นหมอกขาวโพลนที่ค่อยๆลอยอ้อยอิ่ง ผ่านต้นไม้ใบหญ้าที่เริ่มผลิใบออกสีเขียวอ่อนๆ โดยมีฉากหลังเป็นทิวเขาและท้องฟ้าสีออกเหลืองเรื่อเรือง ดูกึ่งจริงกึ่งฝันคล้ายภาพวาดอิมเพรสชั่นนิสต์
       
       แดดอ่อนๆเริ่มส่องแสงรำไร คณะของเราก็ไม่รอช้าใดๆ ออกเดินทางต่อสู่ “ทุ่งนางพญา” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทุ่งที่น่าสนใจแห่งอช.ทุ่งแสลงหลวง

ป่าสนบริเวณทุ่งนางพญายามแดดอุ่นๆ
       ระหว่างทางเราผ่านป่าสน ป่าดิบแล้ง โดยไม่ลืมที่จะหยุดแวะชมต้น “แสลงใจ” ซึ่งว่ากันว่า ไอ้เจ้าต้นแสลงใจนี้แหละเป็นหนึ่งในที่มาของชื่อทุ่งแสลงหลวง เนื่องจากสมัยก่อนบริเวณป่าแถวนี้มีต้นแสลงใจอยู่เยอะ ก่อนที่ชื่อจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นทุ่งแสลงหลวงเนื่องจากฟังเนียนหูกว่า
       
       “สำหรับต้นแสลงใจถือเป็นไม้ยืนต้น ที่มีผลกลมๆสีเหลือง โดยเม็ดนั้นสามารถอมแก้ไข้ป่าได้ แต่ว่าห้ามกลืนเม็ดเด็ดขาดเพราะกินแล้วตายทันที เรียกว่าชื่อต้นไม้นั้นฟังแสลงใจ ส่วนเม็ดนั้นถ้าหากกินก็แสลงกายตายสนิท” เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ที่นำทางบอกกับ “ผู้จัดการท่องเที่ยว”
       
       จากจุดชมต้นแสลงใจชั่วเวลาประมาณหม้อข้าวไฟฟ้าเดือด เราก็มาถึงยังทุ่งนางพญา หรือทุ่งนางพญาเมืองเลน ที่มีพื้นที่ประมาณ 16 ตารางกิโลเมตร ซึ่งนับเป็นป่าสนที่สวยงามและยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย
       
       โดยบรรยากาศยามเช้าประมาณ 7 โมง ที่ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ไปถึงทุ่งนางพญาจะมีแสงแดดอ่อนๆอุ่นๆส่องมากระทบตามป่าสน ต้นหญ้า ดงเฟิร์น ไม้เล็กไม้น้อย ที่นับว่าบรรยากาศและองค์ประกอบต่างๆ ของธรรมชาติล้วนอยู่กันอย่างกลมกลืนลงตัว

ต้นเฟิร์นยามเช้าใต้ทิวสนแถวทุ่งนางพญา
       ยิ่งเมื่อยามแสงแดดอ่อนส่องต้องมายังดงสนที่มองเห็นริ้วรอยแตกของเปลือกสนแบบไร้ทิศทาง แต่ว่าไม่ไร้ความงาม
       
       ตามพื้นดินเบื้องล่างหญ้าที่เพิ่งระบัดยามสายลมพัดผ่านก็จะพลิ้วไหวตามเล็กน้อยแบบเอียงอาย ซึ่งคล้ายๆกับว่าหญ้าเหล่านี้เป็นดังสาวแรกรุ่นที่เอียงอายต่อสายตาชายหนุ่ม แต่ถ้าหากหญ้าโตเต็มที่ ยามต้องลมก็จะพัดพลิ้วไหวไปมา ลู่ลม ดูคล้ายดังสาวที่โตเต็มวัยที่รู้จักทิศทางลม ลู่ไหวเพื่อให้ต้องใจชายที่ตนรัก
       
       และนอกจากความสูงตระหง่านของต้นสนแล้ว ที่ใต้ต้นสนบางช่วงก็มีดงเฟิร์นขึ้นเรียงรายเต็มพรึ่ดไปหมด ซึ่งถ้าหากว่าใครผ่านเลยก็จะไม่เห็นความงามของเหล่าเฟิร์น ยามสลัดน้ำค้างที่ทิ้งประกายไว้บนยอดที่โค้งงอ
       
       เรียกได้ว่าองค์ประกอบป่าสนบริเวณทุ่งนางพญานั้น ธรรมชาติได้บรรจงสร้างสรรค์ให้ออกมากลมกลืนกัน ทำให้บริเวณนั้นกลายเป็นหนึ่งในดินแดนที่ตราตรึงใจของผู้ที่พานพบ
       
       ...พูดถึงความกลมกลืนของธรรมชาตินี่ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” อดนึกถึงมนุษย์เราไม่ได้ เพราะนับจากอดีตจนปัจจุบันนี้มนุษย์ไม่เคยคิดที่จะอยู่กันอย่างกลมกลืน แต่มนุษย์กลับเลือกที่จะอยู่กันอย่างแบ่งแยก การรบราฆ่าฟัน สงครามต่างๆ จึงเกิดขึ้นตลอดเวลา หรือว่านี่แหละคือธรรมชาติของมนุษย์...
       
       แสงแดดแรงขึ้น อากาศก็เริ่มร้อนขึ้น พวกเราค่อยๆเคลื่อนขบวนออกจากทุ่งนางพญา ตามทางสายเก่ากลับสู่ที่พัก ที่ หน่วยฯหนองแม่นา เพื่อเก็บข้าวเก็บของอำลา อช.ทุ่งแสลงหลวง ที่หลังฝนนี้เราไปเที่ยวทุ่งแสลงหลวงแล้วไม่รู้สึกแสลงใจเลยสักนิด
       
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

น้ำตกแก่งโสภา
       อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง มีพื้นที่ครอบคลุมในท้องที่ อ.วังทอง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และ อ.หล่มสัก อ.เมือง อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ มีเนื้อที่789,000 ไร่ หรือประมาณ1,262.55 ตารางกิโลเมตร หรือ สภาพทั่วไปเป็นภูเขา มีทุ่งหญ้าสะวันนาและป่าสนอยู่หลายจุด มีจุดสูงสุดคือ บริเวณเขาแค สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,028 เมตรอันเป็นต้นน้ำลำธารหลายสาย เช่น ห้วยเข็กใหญ่ ห้วยเข็กน้อย มีสภาพธรรมชาติ ทิวทัศน์ ที่สวยงาม
       
       สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงก็มี
       
       น้ำตกแก่งโสภา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่เกิดจากลำห้วยเข็กใหญ่ไหลผ่านหน้าผาประมาณ 3 ชั้น ตั้งอยู่ระหว่างกิโลเมตรที่ 71-72 ของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ซึ่งจะมีทางแยกเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร
       
       ทุ่งแสลงหลวง เป็นทุ่งหญ้าแบบสะวันนา อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 60 กิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.8 (หนองแม่นา) สภาพพื้นที่เป็นทุ่งหญ้าโล่งใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร ตามเส้นทางจะตัดผ่านป่าเบญจพรรณจะพบสัตว์ป่าออกมาหากินตามข้างทางเป็นประจำ และพันธุ์ไม้ดอกมากมาย
       
       ทุ่งนางพญา เป็นทุ่งหญ้าสลับป่าสนสองใบสลับกับป่าดิบแล้ง มีที่กางเต็นท์ในบริเวณนี้ ปัจจุบันเป็นที่นิยมสำหรับกิจกรรมปั่นจักรยานเสือภูเขา อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.8 (หนองแม่นา) ประมาณ 14 กิโลเมตร ปัจจุบันเป็นที่นิยมสำหรับกิจกรรมปั่นจักรยานเสือภูเขา
       
       ทุ่งโนนสน เป็นทุ่งหญ้าสลับกับป่าสนเขาที่สวยงามมาก โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว ตามบริเวณลานหินจะเต็มไปด้วยดอกไม้เล็กๆ เช่น ดุสิตา สร้อยสุวรรณา กระดุมเงิน นับเป็นทุ่งดอกไม้ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ปัจจุบันเป็นที่นิยมสำหรับกิจกรรมปั่นจักรยานเสือภูเขาเช่นกัน การเดินทาง สามารถเดินทางโดยรถยนต์จากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.8 (หนองแม่นา) มาประมาณ 17 กิโลเมตร แล้วเดินเท้าเข้าไปอีก 15 กิโลเมตร จึงจะถึง
       
       แก่งวังน้ำเย็น เป็นแก่งหินขนาดใหญ่กว้าง 40-50 เมตร ยาวหลายร้อยเมตร ประกอบด้วยแก่งหินขนาดใหญ่หลายแก่ง โดยในระหว่างแก่งแต่ละแก่งเป็นวังน้ำลึกขนาดใหญ่ อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.8 (หนองแม่นา) ไปตามทางที่จะไปทุ่งโนนสนประมาณ 7 กิโลเมตร ที่นี่มีสัตว์ที่น่าสนใจให้ดูหลายชนิด ผีเสื้อถุงทองป่าสูง ผีเสื้อหนอนคืบสไบแดง หอยตูดตัด แมงกะพรุนน้ำจืด
       
       การเดินทางสู่หน่วยจัดการอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงที่ 1 (หนองแม่นา) สามารถเดินทางได้โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ไปทาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ถึงบ้านนางั่วเลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 2258 ขึ้นเขาค้อผ่านสี่แยกบ้านสะเดาพงษ์ ผ่านพระตำหนักเขาค้อตรงไปจนถึงบ้านทานตะวัน เลี้ยวขวาตามทางลูกรังประมาณ 4 กิโลเมตร จะถึงหน่วยจัดการอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ที่ 1 (หนองแม่นา) ติดต่อสอบถามและจองบ้านพักได้ที่ ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติกรมป่าไม้ โทร.0-2561-4292-3 ต่อ 724-725 และที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง โทร. 0-5526-8019
       
       และนอกจากที่จะไปเที่ยวชมธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง คือ การพายเรือแจว ชมธรรมชาติแก่งบางระจัน ที่กลุ่มชุมชนคนรักป่าหนองแม่นา-ทานตะวัน ได้จัดตั้งขึ้นเป็นโครงการเดินชมป่าศึกษาธรรมชาติ-นั่งเรือแจว โดยมีมัคคุเทศก์ชาวบ้านพานำเที่ยว มีด้วยกันอยู่ 2 โปรแกรม คือ โปรแกรมที่ 1 เดินป่า นั่งเรือล่องลำน้ำเข็ก ศึกษาธรรมชาติ พักค้างแรมในป่า 2 วัน 1 คืน และโปรแกรมที่ 2 เดินป่าล่องเรือ ศึกษาธรรมชาติสองฝั่งลำน้ำเข็ก แก่งบางระจัน ภายใน 1 วัน ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามไปได้ที่ กลุ่มชุมชนคนรักป่าหนองแม่นา-ทานตะวัน ประธานกลุ่ม คุณเกรียงไกร สมนรินทร์ 58 ม.6 ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โทร. 0-1046-2166, 0-6214-6510


ข่าวอื่นๆ ในหมวด
เที่ยว"สิงห์บุรี"เพลิดเพลินใจ สบายสุขภาพ
ท่องแดนดินแห่งความงามที่ “พระราชวังบางปะอิน”
ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อ ที่ “พิพิธภัณฑ์ริบลีส์ ” พัทยา
ซึมซับธรรมชาติ...ยลความงามที่ป่า "ซับลังกา"
เที่ยว "กระบี่"...ซึ่งไม่ได้มีแต่ทะเล
จำนวนคนอ่าน 5732 คน จำนวนคนโหวต 5 คน
คุณคิดอย่างไรกับการนำเสนอข่าว/บทความนี้
ควรปรับปรุง ดีมาก
  1 2 3 4 5  
1 2 3 4 5
เครื่องมือจัดการเว็บ
ส่งบทความนี้ต่อ
พิมพ์หน้านี้
ข่าวที่มีผู้ส่งมากที่สุด
แสดงความคิดเห็นผ่านเว็บบอร์ด
 
 
ความคิดเห็นที่ 25 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ฝนนี้ไม่ว่างครับ แต่ หนาวนี้ไปแน่นอนนัดกับสหายไว้แล้วครับ
one
ความคิดเห็นที่ 24 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
มีธรรมชาติให้สัมผัสมากมายที่ทุ่งแสลงหลวง และถ้าจะให้ได้บรรยากาศ สัมผัสธรรมชาติ ต้องไปกางเต้นท์นอนที่ทุ่งนางพญา
YND
ความคิดเห็นที่ 23 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
อยากเชิญชวนเพื่อนๆ มาเที่ยวทุ่งแสลงหลวงกันเยอะๆ ค่ะ
ถ้าไม่ชอบนอนกลางเต็นท์ อยากเชิญชวนเพื่อนๆ ให้ไปพักที่ เขาค้อรีสอร์ท นะคะ ที่พักดี ราคาถูก อาหารอร่อย ค่ะ
ชมรายละเอียด ที่ www.khaokhresort.com
จอย
ความคิดเห็นที่ 22 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ถ้าใครไม่รู้จะเริ่มต้นเที่ยวอย่างไร ขอแนะนำอย่างนี้นะคะ สำหรับคนที่ไม่ชอบนอนเต็นท์ ก็แนะนำให้หาที่พัก ที่ อ. เขาค้อ ค่ะ เพราะอยู่ใกล้ที่สุดจะได้เที่ยว เขาค้อ ด้วย
เช่น ถ้าเดินทางจาก กทม. จะมาถึงที่ เขาค้อ ตอนกลางวัน วันนั้นก็ให้เที่ยว บนเขาค้อก่อนค่ะ มีที่เที่ยวประมาณ 8 ที่ เที่ยวครึ่งวันบ่าย ก็มืดพอดี นอนที่ เขาค้อสัก คืนนะคะ ที่ไหนก็ได้ แล้วเช้าวันรุ่งขึ้น ค่อย ไปเที่ยว ทุ่งแสลงหลวง จะได้มีเวลาอยู่ที่นี่นาน ๆ รับรองว่าสนุกแน่ๆ ค่ะ
สนใจติดต่อที่พัก บน เขาค้อ โทรมาได้ค่ะ ที่ 06-711-1542 แล้วพบกันที่ ทุ่งแสลงหลวงนะคะ
ทราย
ความคิดเห็นที่ 21 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
แสลงหลวง สวยมากๆ เลยค่ะ สวยกว่าในเว็บ เยอะเลย อยากให้ไปกัน ค่ะ ไปดูทุ่งหญ้าสวัลน่าในเมืองไทย ทุ่งโนนสน ,สวยมากๆ ที่นี่มีจักรยานให้เช่าขี่ในอุทยานด้วยนะคะ แต่ทางก็ลำบากเหมือนกัน ถ้าใครไม่เคยออกกำลังกายแล้วไปปั่น เพื่อจะเที่ยวดูทุ่งหญ้าสวัลน่า ล่ะก็ ขอบอกว่าอย่าลองค่ะ เหนื่อยมากๆ แต่ก็สนุกๆ
ทราย
ความคิดเห็นที่ 20 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
อยากไปครับ
แงซาย
ความคิดเห็นที่ 19 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ในการที่เราได้ไปเที่ยวนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เราสบายใจและทำให้รู้สึกสบายใจเมื่อเราไปเที่ยวคนเดียวเมื่อไม่มีคู่
vple191
ความคิดเห็นที่ 18 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
น่าเที่ยวดีนะ แต่ไกลไป
คน ศ.ก.
ความคิดเห็นที่ 17 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
เคยไปมาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ต้นสิงหาคม ฝนตกทั้งวันและทั้งคืน แต่อากาศสะอาดและสดชื่นมาก ไปกัน 5 คนกางเต๊นท์ในศาลาที่กว้างมาก ก็เลยไม่เปียก ทำอาหารกินกันเอง โอ้โห้ ต้มต้มยำกลางป่า อร่อยเด็ด ไปตอนที่ ททท โฆษณาว่าให้เที่ยวหน้าฝนบ้าง ก็เลยไปกัน เอารถเก๋งไปด้วยนะ ทางเข้าหนองแม่นาระยะทางแค่ 200 เมตร แต่ใช้เวลา 1 ชม.กว่าจะผ่านไปได้ เพราะหล่มเยอะมาก ทางเป็นลูกรัง แนะนำว่าต้องเอาโฟร์วีล อย่างเดียว พอขึ้นไปถึงพนักงานป่าไม้งงว่าขึ้นมาได้ยังไง แต่ผมบอกไปว่า ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าจะลงยังไง ก็เลยฮากันใหญ่เลย แต่ถ้าหน้าหนาวเอารถเก๋งไปได้ไม่ต้องกลัว ถ้าใครไปก็ขอให้สนุกนะ
คนชอบเหนือ
ความคิดเห็นที่ 16 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
เห็นหัวเรื่องบอกว่า "สัมผัสอารมณ์ ฝนแรก หญ้าแตกใบ" หนึ่งในหลายภาพที่ให้ไว้น่าจะมีสีเขียวอ่อนของหญ้าที่กำลังระบัดใบแล้วชุ่มฉ่ำด้วยหยดน้ำค้าง มาวางไว้เ็ป็นภาพแรก ก็ยังจะได้อารมณ์เข้ากันกับหัวเรื่อง เพื่อดึงความสนใจให้ติดตามมากยิ่งขึ้น กว่ามั๊ย. ไม่ซีเรียสนะ เพียงแต่ใช้จินตนาการของตัวเองแสดงความคิดเห็นเข้ามาเท่านั้น ยังไงก็ยังสร้างสรรค์อยู่ดี
saiyood-47@thaimail.com
ความคิดเห็นที่ 15 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
อยากรู้ว่ามีที่พักที่ไหนบ้างครับหรือที่กางเต็นท์ก็ได้ ช่วยแนะนำหน่อยครับ เอกางเต็นท์หน้าฝนนี่จะไหวไม๊นะ
goodoheart@hotmail.com
ความคิดเห็นที่ 14 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
เคยไปเหมือนกันครับ จริงๆก็สวยใช้ได้นะ และถ้าเทียบกับความลำบากแล้ว ต้องคิดหนักพอสมควร ยังไงก็ชอบเชียงดาวที่สุด
nO
ความคิดเห็นที่ 13 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
อยากไปสัมผัสบ้างจังเลย ไม่นึกว่าในช่วงที่ในเมืองอากาศร้อนอบอ้าวอย่างนี้ จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและอากาศเย็นสบาย เหมาะสำหรับการพักผ่อนเหลืออยู่อีก
จรรยา
ความคิดเห็นที่ 12 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ไปเลยนะค่ะ สวยมาก ไปแล้วไม่อยากกลับบ้านเลย ตอนนั้นไปกับแฟนแต่ตอนนี้มันตายไปแล้ว ปีนี้จะไปกับใครดี อยากไปอีก เพราะสวยมาก ถึงไม่มีมันไปด้วยก็ไปกับเพื่อนก็ได้
0
ความคิดเห็นที่ 11 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ใครที่ไม่เคยไปเที่ยว ฝนแรกอย่างนี้แนะนำให้ไปเที่ยวเลยครับ ทุ่งหญ้าสวันนาสวยงามมากโดยเฉพาะที่ทุ่งนางพญา และควรจะไปเที่ยว ภูหินร่องกล้า เป็นทริปต่อจากทุ่งแสลงหลวงจะดีมากๆครับ ขาขึ้นภูหินร่องกล้าให้ขึ้นทางบ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก สถานที่ท่องเที่ยวบนภูหินร่องกล้าถ้าเป็นต้นฝนอย่างนี้จะสวยงามมากๆเลยครับมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และสถานที่ที่เป็นธรรมชาติ เมื่อเที่ยวอิ่มหนำแล้วขากลับให้กลับลงทางบ้านทับเบิก อ.หล่มเก่า เส้นทางจะคดเคี้ยวตามใหล่เขาลงมาเรื่อยๆมองเห็นภูเขาสลับซับซ้อนมีจุดชมวิวให้ดูเกือบตลอดสวยงามมากๆ และก็เลี้ยวซ้ายแวะไป ทานขนมจีนที่ อ.หล่มเ่ก่า โอ้อร่อยอย่าบอกใครเชียว และนับจากเส้นทาง อ.หล่มเก่า ผ่าน อ.หล่มสักแวะใหว้อนุเสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง แล้วก็เดินทางผ่าน จ.เพชรบูรณ์ แวะอีกแล้วครับซื้อมะขามหวาน ผ่านสามแยก อ.วิเชียรบุรี ก็แวะกินไก่ย่างส้มตำแซบๆ เดินทางกลับมาทำงานที่กรุงเทพ(คนที่อยู่กรุงเทพนะ)อย่างมีความสุข
แนะนำ
ความคิดเห็นที่ 10 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ตามพื้นดินเบื้องล่างหญ้าที่เพิ่งระบัดยามสายลมพัดผ่านก็จะพลิ้วไหวตามเล็กน้อยแบบเอียงอาย ซึ่งคล้ายๆกับว่าหญ้าเหล่านี้เป็นดังสาวแรกรุ่นที่เอียงอายต่อสายตาชายหนุ่ม แต่ถ้าหากหญ้าโตเต็มที่ ยามต้องลมก็จะพัดพลิ้วไหวไปมา ลู่ลม ดูคล้ายดังสาวที่โตเต็มวัยที่รู้จักทิศทางลม ลู่ไหวเพื่อให้ต้องใจชายที่ตนรัก

ขออย่าได้เจอชายมักง่ายอย่างไฟป่า ที่เฝ้าทำร้ายจิตใจเจ้าเลย คอยข้าก่อนนะอีกไม่นานเราคงได้พบกัน แล้วเราจะได้ไปเต้นระบำยอดหญ้ากัน
หญิงน้อย
ความคิดเห็นที่ 9 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
เช่ารถที่ แยกเสดาะพง เขาค้อ ที่ร้านตัดผม 700
ราคานี้เมื่อ 5 ปีที่แล้วอะ แล้วยังไม่ได้ไปอีกเลย
อากาศดี เหมือนทุ่งหญ้าสวันนา
kueng
ความคิดเห็นที่ 8 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
แก้ไข คำบรรยายภาพตรงกับรูปแล้วครับ ขอขอบคุณความเห็นที่ท้วงติงมา

ผู้จัดการท่องเที่ยว
ความคิดเห็นที่ 7 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
อยากไป อยากไป อยากไป
ตะวัน
ความคิดเห็นที่ 6 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ผมว่ารูปภาพกับคำอธิบายมันสลับกันอยู่นะ
ปังปอนด์
ความคิดเห็นที่ 5 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
อยากไปอ่ะ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร
fm102
ความคิดเห็นที่ 4 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
อยากไปตั้งนานแล้ว ไม่มีโอกาสซะทีนะ
missing_u
ความคิดเห็นที่ 3 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
เป็น อช.ที่ไปบ่อยที่สุด บรรยากาศดีมาก
หนุ่มพิมาย
ความคิดเห็นที่ 2 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
เคยไปช่วงปลายฝนต้นหนาว ก็สวยไปอีกแบบนะครับ
ท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินเข้มๆ ตัดกับต้นไม้ ใบหญ้าสีเขียวๆ
3 รูปแรกกับคำบรรยายใต้ภาพ สลับกันหรือเปล่าครับ
palo
ความคิดเห็นที่ 1 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
Our country, Thailand, is exquisite land, indeed.
Pai
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความคิดเห็น
1. โปรดงดเว้น การใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
2. ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้
3. ทีมงานเว็บมาสเตอร์ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น
4. เพื่อให้การแสดงความคิดเห็นเป็นไปตามกฎกติกาที่วางไว้ ทางผู้จัดการออนไลน์ได้ปรับปรุงระบบการกรองคำให้เข้มงวดยิ่งขึ้น กรุณารอสักครู่ ก่อนที่ความคิดเห็นของท่านจะถูกนำขึ้นแสดง
เพื่อให้การแสดงความคิดเห็นเป็นไปตามกฎกติกาที่วางไว้ ทางผู้จัดการออนไลน์ได้ปรับปรุงระบบการกรองคำให้เข้มงวดยิ่งขึ้น กรุณารอสักครู่ ก่อนที่ความคิดเห็นของท่านจะถูกนำขึ้นแสดง
แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ชื่อ/e-mail ของคุณ : *
ความคิดเห็น :
 *
 
หนังสือพิมพ์: ผู้จัดการออนไลน์ | ผู้จัดการรายวัน | ผู้จัดการรายสัปดาห์ | นิตยสารผู้จัดการ | Positioning | ASTV News1
มุม: การเมือง | อาชญากรรม | คุณภาพชีวิต | ภูมิภาค | ต่างประเทศ | มุมจีน | ธุรกิจ | หุ้น | SMEs | โลกยานยนต์
CyberBiz | วิทยาศาสตร์ | เกม | กีฬา | บันเทิง | Life on Campus | Metro Life | ท่องเที่ยว | ธรรมะกับชีวิต
เว็บ: Asia Times | บุรพัฒน์ คอมมิคส์ | Public Law | Mars Magazine | Mast Online | Dajiahao | ทะเลไทย | คุยกับเว็บมาสเตอร์ | โฆษณาบนเว็บ
All site contents copyright ©1999-2005 Thaiday Dot Com Co., Ltd.