back |
มนุษย์กับจักรวาล ตอนที่ 4 (21)
กันอย่างหลวม ๆ จนกระทั่งมีขนาดเล็กเท่าที่เป็นอยู่ในที่สุดและมีเนื้อมวลสารอยู่อัดกันแน่นเป็นดิน-เป็นหิน-หรือเป็นก้อนน้ำแข็งแน่น ห่อหุ้มส่วนเป็นโลหะหลอมละลายอยู่ภายใน (ดังเช่น ดาวพฤหัสบดีหรือดาวเสาร์)
แต่ถ้าพิจารณาตั้งแต่ดาวเคราะห์ที่มีสภาพเป็นดาวเคราะห์อย่างอยู่ตัวแล้ว ดังเช่นโลก ขนาดและมวลของดาวเคราะห์ก็จะเปลี่ยนแปลงน้อยมาก แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกเลย ถึงแม้ว่าดาวเคราะห์ ดังเช่นโลก จะได้รับมวลสารจากนอกโลกในรูปของอุกกาบาต ดาวตก และอนุภาคจากอวกาศในรูปของรังสีคอสมิกตลอดเวลา แต่มวลสารเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ถูกเผาไหม้หรอืสลายตัวถูกทำลายไปจากการเสียดสีกับบรรยากาศรอบโลก มีเหลือตกลงมาถึงยังพื้นโลกเป็นมวลสารที่เพิ่มขึ้นของโลกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เล็กน้อยในระดับที่แทบจะไม่มีผลอะไรต่อมวาลของโลกเลย โดยทั่ว ๆ ไปวงการดาราศาสตร์จึงถือว่าดาวเคราะห์ ดังเช่นโลก มีขนาดและมวลเท่าเดิมตลอดมา
และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปชั่วนิรันดร์หรือจนกว่าจะถูกกลืนกินเข้ากับดาวฤกษ์ ดังเช่นกรณีของดาวพุธอีกประมาณห้าพันล้านปีก็จะถูกดาวยักษ์แดงดวงอาทิตย์ของเรากลืนกินครับ
เนบิวลาดาวเคราะห์และเนบิวลามืด
เนบิวลาดาวเคราะห์ และเนบิวลามืดคืออะไร
เนบิวลาดาวเคราะห์ (planetary nebula) คือส่วนที่เคยเป็นก๊าซและฝุ่นผงชั้นผิวนอกของดาวฤกษ์บางชนิด ดังเช่นดาวยักษ์แดงมาก่อน และถูกสลัดออกในบั้นปลายระยะสุดท้ายชีวิตของดาวฤกษ์ เช่น ดาวยักษ์แดงสลัดผิวนอกออก ก่อนจะเปลี่ยนสภาพไปเป็นดาวแคระขาว ส่วนก๊าซฝุ่นผงผิวนอกนี้จะเคลื่อนที่เป็นวงแหวนทรงกลมแผ่ออกมาจากดาวฤกษ์ และเรืองแสงสว่างเมื่อได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตจากดาวฤกษ์ที่เหลืออยู่
เนบิวลาดาวเคราะห์ จริง ๆ แล้ว ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับดาวเคราะห์เลย สาเหตุที่ถูกเรียกเป็นเนบิวลาดาวเคราะห์ เนื่องจากเมื่อส่องด้วยกล้องโทรทรรศน์ จะเห็นเป็นคล้าย ๆ กับแผ่นหรือจานดาวเคราะห์ ล้อมรอบด้วยวงแหวนทรงกลมของก๊าซที่กำลังเรืองแสง และเมื่อถูกค้นพบเป็นครั้งแรก นักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบบรรยายลักษณะที่เห็น่าเป็นเนบิวลาที่มีสีไม่สดใส ดูคล้าย ๆ กับดาวเคราะห์ที่กำลังจะดับหายไป
ตัวอย่างของเนบิวลาดาวเคราะห์ คือ เนบิวลาแหวน (Ring Nebula) อยู่ในกลุ่มดาวไลราหรือกลุ่มดาวพิณ
เนบิวลามืด (dark nebula) คือ ก๊าซและฝุ่นผงซึ่งจับกลุ่มกันอย่างหนาแน่นอยู่ในอวกาศระหว่างดวงดาว ห่างไกลจากดาวฤกษ์ต่าง ๆ มาก จึงไม่มีการเรืองแสงหรือการสะท้อนแสงสว่างจากดาวฤกษ์ดวงใดเลย และจึงปรากฏเป็นเมฆดำมืด บดบังส่วนของกาแล็กซีที่อยู่ด้านหลัง
ตัวอย่างเนบิวลามืด คือ เนบิวลาหัวม้า (Horsehead Nebula) อยู่ในกลุ่มดาวโอไรออน
ความคืบหน้าของการค้นหาเตคีออนและนิวตริโน
อนุภาค Tachyon neutrino และ entropy นักวิทยาศาสตร์เขาค้นคว้าถึงระดับไหนแล้ว ตรวจสอบในขั้นห้องปฏิบัติการได้หรือยัง จะติดตามเรื่องนี้ได้จากไหนครับ และนักวิทยาศาสตร์เขาได้มองลู่ทางที่จะนำมาประยุกต์ใช้ประโยชน์อะไรบ้างหรือยัง
สำหรับเตคีออน (Tachyon) ในแง่ของทฤษฎีก็ก้าวไปไกลถึงขั้นที่ยอมรับกันว่า ไม่ขัดกับทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ นั่นคือทฤษฎีเกี่ยวกับเตคีออนเป็นทฤษฎีที่ยอมรับกันได้
แต่ปัญหาของเตคีออน คือ การค้นหา เพราะมาถึงปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่ (ค้น) พบเตคีออรนอย่างชนิดที่ปฏิเสธไม่ได้
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28
back |
go to top |
|