คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
|
|
|
|
ท่านผู้อาวุโส ณ วันนี้ มีวัยล่วงเลยถึงขนาดเป็นคุณปู่ คุณทวดของเหล่าหมิงซิงเอาะๆ...ดาราดาวเด่นหลายต่อหลายคนได้สวมบทบาทตัวละครจากงานประพันธ์ของผู้เฒ่า จนโด่งดังสะท้านพิภพ
ท่านผู้อาวุโส เป็นหนอนหนังสือพันธุ์แท้ เกิดมาเพื่ออ่านหนังสือ ทำหนังสือ และเขียนหนังสือ เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่...การอุทิศเหล่านี้ของท่านเป็นที่ประจักษ์เลื่องลือ จนได้รับรางวัลเกียรติยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ยาวเหยียดเป็นหางว่าว จากประเทศชั้นนำในปฐพี ไม่ว่าแดนผู้ดี, แดนศิลปะโลก...
ท่านผู้อาวุโสยังสร้างความฮือฮาแก่วงการ ด้วยการเข้าศึกษาระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ในวัย 81 ปี...
ท่านผู้อาวุโสเป็นพ่อผู้ให้กำเนิด ก๊วยเจ็ง อึ้งย้ง เอี้ยก้วย เสียวเล้งนึ้ง อึ้งเอ๊ะสือ จิวแป๊ะทง อาวเอี๊ยงทง อุ้ยเสี่ยวป้อ...ฯลฯ อา!---กิมย้ง...นั่นเอง...
***************
กิมย้งซึ่งมีเสียงในภาษาจีนกลางว่า จินยงเป็นนามปากกาจาเหลียงยงนักเขียนแดนฮ่องกง ที่เริ่มเขียนนิยายกำลังภายในตั้งแต่ช่วงวัยหนุ่ม 31 ปี และได้แขวนปากกาล้างมือในอ่างทองคำไปแล้วเมื่ออายุ 48 ปี แต่นิยายของท่านก็ยังเป็นดาวเด่นเหนือบรรณพิภพและโลกบันเทิงมาถึงครึ่งศตวรรษ นิยายของกิมย้งได้รับการแปลเป็นฉบับพากษ์ภาษาเกาหลี อังกฤษ ฝรั่งเศส เวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย นอกจากนี้ ยังมีการนำไปดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์จอเงิน และภาพยนตร์จอแก้วอย่างนับไม่ถ้วน
ขณะนี้ นิยายกำลังภายในของกิมย้งได้พิชิตยอดขายถึง 300 ล้านเล่มจากทั่วโลก (อาจถึง 1,000 ล้านเล่มด้วยซ้ำ หากนับรวมฉบับที่อยู่ในกองหนังสือเถื่อนหรือละเมิดลิขสิทธิ์)
แม้กิมย้งเองได้จัดให้งานเขียนของตนอยู่ในประเภทนิยายบันเทิงประโลมโลกธรรมดาๆ อย่างไรก็ตาม หลายคนในวงการก็ยกย่องงานประพันธ์ของกิมย้งมีคุณค่าเชิงวรรณกรรมอย่างสมบูรณ์ และประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับสามก๊ก ซ้องกั๋ง ไซอิ๋ว ด้วยเนื้อเรื่องดี แต่งดี เป็นที่นิยมแพร่หลายอย่างยาวนาน
นอกจากได้รับการยกย่องเป็นนักเขียนนิยายกำลังภายในมือหนึ่งของโลก กิมย้งยังได้ชื่อว่าเป็นนักหนังสือพิมพ์และนักเขียนบทบรรณาธิการ บทวิพากษ์วิจารณ์สังคมมือหนึ่งแห่งฮ่องกงอีกด้วย ชาวฮ่องกงชอบอ่านบทวิพากษ์วิจารณ์สังคม การเมืองของเขา กระทั่งผู้นำในกรุงวอชิงตันก็ติดตามบทวิพากษ์วิจารณ์ของเขา เก็บไว้ในแฟ้มข้อมูล เพื่อวิเคราะห์มองสังคมจีน
...กิมย้งเล่าเรื่องชีวิตตัว...
เมื่อเร็วๆนี้ กิมย้งได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประวัติชีวิตของท่านว่า เริ่มอ่านหนังสืออย่างดุเดือดตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อตอนอายุ 9 ขวบ ก็อ่านทั้งนิยายของจีนทั้งหมด และนิยายแปลของต่างประเทศ ในวัยเยาว์ได้อ่านวรรณกรรมคลาสสิกทั้ง 4 เรื่องของจีน ได้แก่ สามก๊ก (三国演义) ซ้องกั๋ง(水许传) ไซอิ๋ว(西游记) และความฝันในหอแดง (红楼梦)
กิมย้งเล่าถึงวิธีอ่านหนังสือของตนว่า อ่านแบบละเอียดยิบทุกตัวอักษร โดยเฉพาะหนังสือภาษาอังกฤษ เมื่อเจอตัวที่ไม่รู้ความหมายก็จะเปิดพจนานุกรมทันที ถ้ายังไม่เจอ ก็จะรีบหาพจนานุกรมเล่มใหญ่มาค้นดู...ให้ถึงที่สุด ซึ่งเปลืองเวลาและเรี่ยวแรงมาก มันดูเป็นวิธีอ่านหนังสือที่โง่ แต่นานเข้าๆ การอ่านหนังสือก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายหมูๆ
กิมย้งแจงประโยชน์จากการอ่านหนังสือมีมากมาย ไม่เพียงแต่ให้ความรู้ ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ยามที่รู้สึกโดดเดี่ยวเหงา ทุกข์ยากกลัดกลุ้มใจ และไม่มีใครเลย เมื่ออ่านหนังสือก็จะรู้สึกดีขึ้น การอ่านหนังสือทำให้จิตใจดีงาม ผมหวังว่านิยายของผม จะให้เยาวชนมีสำนึกช่วยเหลือผู้อื่นและสังคม มีความคิดความอ่านรู้จักผิดชอบชั่วดี
เนื่องจากมีผู้อ่านจำนวนมากชอบเรื่องอุ้ยเซี่ยวป้อ กิมย้งได้เตือนว่า อย่าเอาอย่างอุ้ยเซี่ยวป้อ ผมสร้างตัวละครนี้ขึ้นมา เพื่อสะท้อนยุคสมัย ไม่ได้สะท้อนความชอบคนบุคลิกแบบนี้ และยังได้กล่าวขอโทษ เกี่ยวกับข้อมูลประวัติศาสตร์ที่ผิดเพี้ยนในบางจุด โดยเฉพาะเรื่องของอิ่นจื้อผิง (尹志平)ที่ให้ภาพลักษณ์ไม่ดี และส่งผลด้านลบแก่สำนึกคิดเต๋า ในฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ ได้ตัดตัวอิ่นจื้อผิงออกไป
นอกจากนี้ กิมย้งยังแสดงความรู้สึกไม่พอใจต่อการนำนิยายของเขาไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์ ที่หลายๆครั้งมักขาดชีวิตขาดอารมณ์ กลายเป็นเรื่องที่แข็งกระด้างไป กิมย้งกล่าวว่า งานของเขานั้น แก้ให้น้อยดีกว่า ไม่ปรับเปลี่ยนเลยก็จะดีที่สุด
หันมาพูดถึงโชคความสุขในชีวิต กิมย้งบอกว่า โชคดีที่สุดในชีวิตของผมคือ พ่อแม่ไม่ตาย พวกเราได้ฝ่าฟันยุคสงครามกันมา ต้องนอนคว่ำหน้าบนพื้นกันหลายครั้ง ล้อมๆตัวมีแต่ระเบิด ปืนกลตระเวนส่องไปมา ตอนที่ต้องระหกระเหินพเนจร สวมเพียงรองเท้าหญ้าฟาง หนาวมากๆ ทั้งไม่มีข้าวกิน ทุกวันนี้ เมื่อคิดถึงชีวิตที่ลำบากเหล่านี้ รู้สึกเป็นการฝึกการต่อสู้ที่ดีมาก ผมไม่กลัวตายเลย
ความสนใจส่วนตัวทุกวันนี้ ก็ยังเป็นการอ่านหนังสือ หากมีทางเลือก 2 ทาง คือให้ติดคุก 10 ปี แต่มีเสรีภาพในการอ่านหนังสือ กับอีกทางคือ มีเสรีภาพในโลกภายนอก แต่ไม่สามารถอ่านหนังสือ ผมขอเลือกทางแรกคือขอติดคุกดีกว่า
อ่านต่อหน้าสอง: ชีวิต...งาน...เกียรติยศ
|
|
|