|
|
|
|
|
25 ธันวาคม 2532
ก่อตั้งบริษัท อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตามนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรม
ปิโตรเคมีระยะที่ 2 ของประเทศ โดยในระยะเริ่มต้นมีผู้ถือหุ้น ประกอบด้วยการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ร้อยละ 25 บริษัท ไทยออยล์ จำกัด ร้อยละ 40 และ บริษัท เอ็กซอนเคมีคัล อีสเทอร์น จำกัด ร้อยละ 35
7 มกราคม 2535
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยปรับปรุงแบบโครงการ
อะโรเมติกส์ และอนุมัติให้การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยถือหุ้นในบริษัททั้งหมด
24 มีนาคม 2538
เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 2,000 ล้านบาทเป็น 4,000 ล้านบาทและได้แปรสภาพเป็น
บริษัทมหาชน โดยใช้ชื่อว่าบริษัท อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ
ATC
8-10 พฤศจิกายน 2538
นำหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 54.05 ล้านหุ้น เสนอขายประชาชนทั่วไป โดยมีสัดส่วน
ผู้ถือหุ้นหลังจากการกระจายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปดังนี้ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ร้อยละ 44 บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 15 บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 9.5 สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ร้อยละ 5 นักลงทุนสถาบัน ร้อยละ 12.75 และประชาชนทั่วไป ร้อยละ 13.75
25 มกราคม 2539
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์อนุมัติหุ้นสามัญของบริษัท จำนวน 399,050,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท รวม 3,990.50 ล้านบาทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยจัดอยู่ในกลุ่มเคมีภัณฑ์และพลาสติก
1 กุมภาพันธ์ 2540
โรงงานอะโรเมติกส์และรีฟอร์เมอร์ เริ่มการผลิตผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ในเชิงพาณิชย์ มีกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ รวม 618,000 ตันต่อปี
24 ตุลาคม 2544
เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 4,000 ล้านบาท เป็น 9,610 ล้านบาท
6 มิถุนายน 2545
โครงการขยายกำลังการผลิตระยะที่ 1 แล้วเสร็จ ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิต
ผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 25
25 มิถุนายน 2546
ออกตราสารหนี้ในรูปหุ้นกู้สกุลเงินบาทมูลค่า 12,000 ล้านบาท และนำเงินไปชำระ
คืนเงินกู้กับกลุ่มธนาคารผู้ให้กู้เดิมทั้งหมด ทำให้ภาระผูกพันที่มีอยู่กับกลุ่มธนาคารผู้ให้กู้เดิม รวมทั้งสัญญา Shareholders Support Agreement สิ้นสุดลง
14 พฤศจิกายน 2546
คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทดำเนินการขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมขั้น
ต่อเนื่อง โดยการผลิตสารไซโคลเฮ็กเซน เพื่อเพิ่มอุปสงค์รองรับผลิตภัณฑ์เบนซีน ที่บริษัทจะผลิตได้เพิ่มขึ้นจากโครงการขยายกำลังการผลิตระยะที่ 2
24 ธันวาคม 2546
ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติให้
|
- |
|
โอนทุนสำรองจากกำไรสุทธิประจำปีจำนวน 1.79 ล้านบาทและทุนสำรองส่วนล้ำมูลค่าหุ้นจำนวน 2,702,75 ล้านบาท ไปชดเชยผลขาดทุนสะสม |
|
|
|
|
|
- |
|
ลดทุนจดทะเบียนจาก 9,610 ล้านบาท เป็น 9,580 ล้านบาท เป็นการตัดหุ้นที่ยังมิได้นำมาจำหน่าย |
|
|
|
|
|
- |
|
เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 9,580 ล้านบาท เป็น 9,726 ล้านบาท เป็นการเพิ่มเพื่อรองรับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ์ที่จะซื้อหุ้นสามัญ |
|
|
|
|
|
- |
|
ลดทุนจดทะเบียนจาก 9,726 ล้านบาท เป็น 972.6 ล้านบาท โดยการลดมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) จาก 10 บาท เป็น 1 บาท และนำทุนสามัญชำระแล้ว ที่ลดลงจากการลดพาร์ ณ ทุนชำระแล้วที่ 9,580 ล้านบาท (หุ้นละ 9 บาท คูณ 958 ล้านหุ้น) รวมจำนวน 8,622 ล้านบาท ไปชดเชยผลขาดทุนของบริษัท |
31 ธันวาคม 2546
ลดทุนจดทะเบียนจาก 9,610 ล้านบาท เป็น 9,580 ล้านบาท เป็นการตัดหุ้นที่ยัง
มิได้นำมาจำหน่าย
6 มกราคม 2547
เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทจาก 9,580 ล้านบาท เป็น 9,726 ล้านบาท
11 มีนาคม 2547
ลดทุนจดทะเบียนจาก 9,726 ล้านบาท เป็น 972.6 ล้านบาท โดยลดมูลค่าที่ตราไว้
จากหุ้นละ 10 บาทเหลือหุ้นละ 1 บาท
16 มีนาคม 2547
พิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจในการดำเนินโครงการร่วมทุน 2 โครงการคือ
โครงการร่วมทุนผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำ และโครงการร่วมทุนผลิตสาร
ฟีนอลระหว่าง PTT, NPC, TOC และ ATC
7 เมษายน 2547
โครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์หรือโครงการขยายกำลังการผลิตระยะที่ 2 แล้วเสร็จ
ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตสารพาราไซลีนเพิ่มขึ้นเป็น 495,000 ตันต่อปี และ
เบนซีน 467,000 ตันต่อปี รวมกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ทั้งสิ้น 1,101,000 ตัน ต่อปี
20 กันยายน 2547
เริ่มงานก่อสร้างโครงการขยายหน่วยกลั่นแยกวัตถุดิบคอนเดนเสท เพื่อขยายขีด
ความสามารถในการกลั่นแยกวัตถุดิบคอนเดนเสทให้เพิ่มขึ้นเป็น 70,000 บาร์เรล
ต่อวัน และโครงการผลิตสารไซโคลเฮกเซน (Cyclohexane) ขนาดกำลังการผลิต
150,000 เมตริกตันต่อปี เพื่อเพิ่มอุปสงค์รองรับผลิตภัณฑ์เบนซีนที่บริษัทผลิตได้เพิ่มขึ้น
30 กันยายน 2547
สถานะผลประกอบการของบริษัทเปลี่ยนจากขาดทุนสะสม ณ สิ้นปี 2546 เป็นกำไร
สะสม 1,550 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2547
8 ตุลาคม 2547
ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2547 มีมติอนุมัติการซื้อที่ดินสำหรับการก่อสร้างโรงงานอะโรเมติกส์หน่วยที่ 2 จำนวน 972.3 ล้านบาท
24 กุมภาพันธ์ 2548 คณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้บริษัทดำเนินโครงการอะโรเมติกส์หน่วยที่ 2 ในวงเงิน 710 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
11 เมษายน 2548 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2548 อนุมัติวงเงินการก่อสร้างงานด้านวิศวกรรม จัดหาเครื่องจักรและก่อสร้างโรงงาน (EPC) สำหรับโครงการอะโรเมติกส์หน่วยที่ 2 ในวงเงินไม่เกิน 597 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และอนุมัติให้ บริษัทฯ ออกตราสารหนี้ในรูปหุ้นกู้สกุลเงินบาทและ/หรือสกุลเงินอื่นที่เทียบเท่าในวงเงิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อใช้ในโครงการอะโรเมติกส์หน่วยที่ 2
9 พฤษภาคม 2548 ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นประจำปี 2548 ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานของกระทรวงแรงงาน
29 มิถุนายน 2548
คณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติเพิ่มงบประมาณโครงการอะโรเมติกส์หน่วยที่ 2 เป็นวงเงิน ไม่เกิน 782.23 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 72.73 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และอนุมัติจัดจ้างกลุ่มบริษัท SK & Engineering Construction Co., Ltd. และบริษัท GS Engineering & Construction Corp. เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง (EPC) โครงการ
อะโรเมติกส์หน่วยที่ 2 ในวงเงินไม่เกิน 653.53 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากเดิม 56.53 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
18 กรกฎาคม 2548 ได้รับรางวัล SET Awards 2005 2 รางวัล ได้แก่รางวัล Best Performance Awards สาขา Industrial สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่มีฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานดีเด่นในปี 2547 และรางวัล Best Corporate Governance Report Awards สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่โดดเด่นในด้านการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี 15 ข้อที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด
23 สิงหาคม 2548
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้ยกเลิกการเข้าร่วมทุนโดยการเลิกบริษัท ระยองปิโตรเคมิคัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว 38% และบริษัทนี้ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการทางธุรกิจใดๆ
26 กันยายน 2548
รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และด้านสวัสดิการแรงงาน จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน
26 กันยายน 2548 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2548 อนุมัติการปรับเปลี่ยนรายละเอียดขอบเขตของงานก่อสร้างโครงการ
อะโรเมติกส์หน่วยที่ 2 โดยชะลอการก่อสร้าง Unicracker ไว้ก่อนและเพิ่มกำลังการผลิตหน่วย Heavy Naphtha Hydrotreater ขึ้นมาแทน และอนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณก่อสร้าง (EPC) เป็น 653.53 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
6 ตุลาคม 2548 ลงนามในสัญญาก่อสร้างโรงงานอะโรเมติกส์หน่วยที่ 2 กับ The consortium of SK Engineering & Construction และ GS Engineering & Construction
27 ตุลาคม 2548 ได้รับการต่ออายุใบรับรองระบบ ISO 9000-2000 จากสถาบันรับรองมาตรฐาน ไอเอสโอ
2 พฤศจิกายน 2548 ลงนามในสัญญาจ้างที่ปรึกษา (PMC Service) Foster Wheeler International Corporation สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานอะโรเมติกส์หน่วยที่ 2
14 ธันวาคม 2548 ลงนามในสัญญาขายผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ที่จะผลิตได้จากโรงงานอะโรเมติกส์หน่วยที่ 2 ให้กับบริษัทมิตซุย
เคมิคัล อิงค์ และบริษัทสยามมิตซุยพีทีเอ จำกัด
19 มกราคม 2549 ลงนามในสัญญาขายผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ที่จะผลิตได้จากโรงงานอะโรเมติกส์หน่วยที่ 2 ให้กับบริษัท ทีพีที
ปิโตรเคมิคัลส์ จำกัด (มหาชน)
15 มีนาคม 2549 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2549 อนุมัติการปรับเปลี่ยนรายละเอียดขอบเขตของงานและวงเงินงบประมาณโครงการก่อสร้างโรงงานอะโรเมติกส์ หน่วยที่ 2 จากเดิมที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2548 ลงเหลือเฉพาะในส่วนโรงงานอะโรเมติกส์และลดมูลค่าเงินลงทุนลงเหลือเป็นเงินประมาณ 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนในโครงการดังกล่าวเป็นการดำเนินธุรกิจร่วมกับบริษัท โรงกลั่นน้ำมันระยอง จำกัด (มหาชน) หรือ RRC พร้อมทั้งโอนบัตรส่งเสริมการลงทุนของบริษัท ในส่วนโรงงานรีฟอร์เมอร์ให้แก่ RRC
13 เมษายน 2549 โครงการขยายกำลังการผลิตหน่วยกลั่นแยกวัตถุดิบคอนเดนเสทจาก 50,000 บาร์เรลต่อวันเพิ่มขึ้นเป็น 70,000 บาร์เรลต่อวัน และ โครงการผลิตสารไซโคลเฮกเซน ขนาดกำลังการผลิต 150,000 เมตริกตันต่อปี แล้วเสร็จ
10 พฤษภาคม 2549 ได้รับรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่น ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระดับประเทศ ประจำปี 2549 ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน
29 มิถุนายน 2549 พิธีวางศิลาฤกษ์ โครงการก่อสร้างโรงงานอะโรเมติกส์และ รีฟอร์เมอร์ หน่วยที่ 2 ณ นิคมอุตสาหกรรม RIL ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
26 กรกฎาคม 2549 ได้รับรางวัล SET Award 2006 ในสาขา Distinction in Maintaining Excellent Corporate Governance Report ซึ่งเป็นรางวัลที่ยกย่องและเชิดชูบริษัทที่สามารถรักษามาตรฐาน ด้านการรายงานการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
18 สิงหาคม 2549 ได้รับรางวัล ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีอุตสาหกรรมดีเด่นประจำ 2549 ประเภทการเพิ่มผลผลิตของกระทรวงอุตสาหกรรม
18 กันยายน 2549 ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่น ด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2549
27 ตุลาคม 2549 ได้รับการรับรองระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มอก.18001 และ OHSAS 18001 จากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.)
|
|