|
ก้อง-กรุณ ซอโสตถิกุล เป็นไฮโซหนุ่มหัวใจร็อคแอนด์โรลวัย 27 ปี ทายาทรุ่นที่ 3 แห่งตระกูลซอโสตถิกุลเจ้าอาณาจักรซีคอนสแควร์ ศูนย์การค้าใหญ่ย่านศรีนครินทร์ เขาเปิดโอกาสให้เราได้ขุดคุ้ย คุยเรื่องชีวิตในแง่มุมต่างๆ ออกมาเป็นบทสัมภาษณ์ที่พูดถึงความรัก ความฝัน และพระเครื่อง ทั้งสามสิ่งนี้สัมพันธ์กันอย่างไร...เริ่มอยากรู้แล้วล่ะสิ
Welcome Home
“ผมเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีคณะเศรษฐศาสตร์และปริญญาโทคณะบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยบอสตัน (Boston University) จริงๆ แล้วผมอยากเรียนออกแบบตกแต่งภายใน หรือศาสตร์ที่เกี่ยวกับศิลปะทุกแขนง เพราะชอบวาดรูปตั้งแต่เด็กๆ ศิลปะเป็นวิชาเดียวที่ทำให้ผมโฟกัสความสนใจให้อยู่กับมันได้ตลอดเวลา ชนิดที่ว่าเรียนจนลืมเวลาไปเลย แต่ก็ตัดสินใจเลือกทำเป็นงานอดิเรกมากกว่า
“พอเรียนจบม.3 ที่โรงเรียนสาธิตประสานมิตร คุณพ่อคุณแม่ก็ส่งไปเรียนอเมริกา เพราะเห็นว่าเมืองไทยมีการแข่งขันสูง ท่านกลัวว่าผมจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ตอนนั้นผมไม่ตั้งใจเรียน แถมติดเพื่อนด้วย แต่พอย้ายไปอยู่เมืองที่มีแต่ป่า เขา หญ้า และวัว ขี้เกียจยังไงก็ต้องเรียน ที่สำคัญคือผมแคร์ความรู้สึกของคุณพ่อคุณแม่ ท่านเสียเงินไปไม่น้อยเพื่อให้ผมมีโอกาสดีๆ แค่ผมเรียนจบท่านก็พอใจแล้ว แม้จะเกเรหรือดื้อแต่ผมก็มีความรับผิดชอบพอที่จะเรียนและเอาตัวรอดมาได้
“ผมกลับมาเมืองไทยได้ประมาณ 1 ปีแล้ว แรกๆ ยังไม่ชิน เพราะเคยใช้ชีวิตแบบอิสระ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่เคยตั้งกำแพงให้ทำตามกรอบ อาจเป็นเพราะมีลูกชายทั้ง 2 คน ก็เลยไม่เข้มงวดมาก พี่ชายอายุห่างกับผม 1 ปี แต่บุคลิกนิสัยต่างกันคนละขั้ว เขาเรียบร้อยมาก ส่วนผมแหกกฎตลอด
“ชีวิตที่เมืองนอกที่ผมจำไม่ลืม ทุกวันนี้ก็ยังนึกถึงเสมอคือ ผมโชคดีมากที่ได้เจอเพื่อนดีๆ บางคนไปเรียนเมืองนอกได้แค่ปริญญากลับมา แต่ผมได้เพื่อนตายกลับมาด้วย อย่างเวลาที่ผมลำบากที่สุด เขาก็ไม่ทิ้งให้แก้ปัญหาเพียงลำพัง พวกเขาให้บทเรียนและเปลี่ยนชีวิตผมไปเลย ได้เริ่มต้นและสู้ชีวิตด้วยตัวเอง ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างที่คิดว่าถ้าอยู่เมืองไทยคงมองไม่เห็นแน่ๆ อย่างการเรียนรู้วิธีการมองคน มันช่วยผมได้มากเมื่ออยู่ในสังคมที่ใส่หน้ากากเข้าหากันแบบทุกวันนี้”
Boutique of Rock
“ผมเป็นคนแต่งตัวจัดและแรง จนทำให้หลายคนวิจารณ์ว่าแรดบ้างล่ะ สาวบ้างล่ะ แต่คงแคร์ทุกคนไม่ได้ เพราะผมมีความเป็นตัวของตัวเองสูง แค่ครอบครัวและเพื่อนๆ ยอมรับได้ก็โอเค ผมแต่งอะไรก็จะแต่งแบบนั้นไปตลอด อย่างตอนนี้เขาฮิตใส่กางเกงขาเดฟเป็นเด็กพังค์กัน ผมก็ไม่ใส่ตาม เพราะชอบใส่กางเกงขาม้า บูธหัวแหลม เข็มขัดหนังสัตว์ สร้อย แหวน ตุ้มหูฯ เพราะแนวของผมคืออเมริกันร็อค วันหนึ่งถ้าผมเปิดร้านเสื้อผ้าก็อยากให้เป็นแบบที่ผมชอบใส่
“ผมเป็นคนไม่ตามแฟชั่นและบ้าแบรนด์เนม แค่ใส่ใจกับการแต่งตัว ของบางชิ้นที่ใส่จะให้จอร์เดน บีตัน (Jorden Beaton) ดีไซเนอร์ร้านเสื้อผ้าแบรนด์ Lost Art ซึ่งเป็นผู้ออกแบบการแต่งตัวให้เซเลบริตี้และนักร้องที่นิวยอร์กทำให้ เขาบอกว่าชอบรูปร่างของผมที่ดูเหมือนผู้หญิง ใส่อะไรก็ดูดีอย่างกางเกงหรือแจ็คเกตก็ใส่ไซส์ผู้หญิงเพื่อให้พอดีตัว เขาบอกว่าผมเป็นคนเอเชียคนแรกที่ได้ใส่งานของเขา ผมเลยสัญญาว่าจะพรีเซ้นส์ให้คนเอเชียเห็น จะได้เปิดตลาดใหม่ที่นี่ซะเลย
“เมื่อก่อนผมก็เคยเป็นฮิปฮอปที่ใส่กางเกงลากพื้นกับเสื้อตัวใหญ่ๆ เหมือนกันนะ แต่เวลาผ่านไปก็พบว่าการแต่งตัวแบบอเมริกันร็อคนี่แหละคือตัวเรา ถึงอายุ 40 ผมก็ยังจะแต่ง ดูอย่าง Rolling Stone, Mick Jacker, และ Steven Tyler แก่จนจะเป็นลุงเป็นตาก็ยังเท่ในแบบของเขาได้ แต่จะให้ใส่กางเกงหลุดตูดหรือทำหัวตั้งอย่างเด็กฮิปฮอปหรือเด็กพังค์ จนอายุ 40 คงไม่ไหว”
I wanna be Rock Star
“ผมชอบฟังและร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยความที่อยู่อเมริกาซึมซับวัฒนธรรมทางดนตรีเหล่านี้มาด้วย มีโอกาสดูคอนเสิร์ตของศิลปินร็อคแอนด์โรลอย่าง Aerosmith และ Lenny Kravitz จนเกิดแรงบันดาลใจว่าสักวันต้องเป็นแบบนี้บ้าง ผมมีรุ่นพี่ที่เป็นคนไทยซึ่งเรียนมาด้วยกันมา แต่ตอนนี้เขาเป็นศิลปินกันหมดแล้ว อย่างพี่บุรินทร์ วงกรูฟไรเดอร์ และพี่ๆ วงอพาร์ตเม้นท์คุณป้า ฯลฯ ผมไม่เคยอยากเป็นดาราหรือเป็นคนมีชื่อเสียง แค่อยากร้อง แล้ววางแผนมานาน แต่คาดว่าปีนี้น่าจะเป็นรูปเป็นร่าง
“ชอบมีคนมาทักว่าผมหน้าเหมือนโดม (ปกรณ์ ลัม) จนชิน โดนมาตั้งแต่ไม่เคยรู้จักเขา จนเป็นเพื่อนสนิทกันก็ยังมีคนทักผิด เคยมีคนเข้าใจผิดมาขอลายเซ็นผมบ่อย ผมก็แกล้งเซ็นให้เขา แล้วค่อยโทรไปบอกโดม บังเอิญนิสัยและการแต่งตัวของผมกับโดมก็คล้ายๆ กัน เรื่องงานเพลงเคยคิดไว้ว่าจะขอให้เขาช่วยดูเรื่องเสียงให้ ในอนาคตสิ่งที่ต้องทำด้วยกันแน่ๆ คือเปิดร้านเสื้อผ้า ขอเวลาเก็บตังค์สร้างเนื้อสร้างตัวสัก 4-5 ปีก่อนแล้วกันครับ”
ก้องท่องธรรมะ
“แม้จะดูเป็นหนุ่มสมัยใหม่ แต่ผมก็เป็นคนธรรมะธรรมโมนะครับ บอกแล้วคงไม่ค่อยมีใครเชื่อใช่ไหมว่าหน้าตาแบบนี้น่ะเหรอ ผมชอบสะสมพระ เครื่องราง เข้าคอร์สนั่งสมาธิ ทำบุญ ปล่อยปลา ถวายสังฆทาน และใส่บาตรทุกอาทิตย์ เชื่อว่าการกระทำเหล่านี้จะช่วยให้ผมปลอดภัยและรู้สึกมั่นใจมากขึ้นไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ผมได้พระรุ่นเก่าๆ มาจากคุณตาและคุณพ่อ จึงสะสมมาเรื่อยๆ เท่าที่มีอยู่ก็ถือว่าเยอะ อย่างพระพิฆเนศองค์ที่ใส่ติดตัวอยู่ก็เป็นทองคำสมัยอยุธยา อายุประมาณ 400 ปี ชิ้นที่แปลกสุดที่ผมมีคือ ปลัดขิกทำด้วยงาช้าง สลักเป็นหน้าเสือ มีลิ้นทองคำ ใต้องค์ท่านมีรูปตัวอักษรดนตรีตัวซอลปรากฎอยู่ด้วย ซึ่งมีอยู่แค่ 4 ชิ้นในโลก
“อาจเป็นเพราะผมเจอเรื่องแปลกๆ ในชีวิตมาเยอะ บางทีผมต้องขึ้นไปร้องเพลง แต่ไม่มั่นใจเอาซะเลย กลัวว่าจะทำไม่ได้ ผมเลยขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พอมีเครื่องยึดเหนี่ยวก็มีความกล้าที่จะแสดงพลังและทำได้ดีด้วย อีกอย่างผมเป็นคนชอบเล่นอะไรที่ผาดโผนมาตั้งแต่เด็กๆ ทั้งสเก็ตบอร์ด สโนว์บอร์ด แต่ก็รอดมาได้โดยไม่เคยบาดเจ็บ รู้สึกเหมือนมีพระคุ้มครองมาตลอด บางทีทำอะไรผิดพลาดหนักหนา เขาก็ให้อภัย นอกจากนั้นก็มีคนเมตตา สนับสนุน เรียกได้ว่ามีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตเสมอ”
หล่อเลือกได้
“ถ้าวันหนึ่งผมดังหรือมีชื่อเสียงขึ้นมา ถามว่ากลัวไหมว่าความส่วนตัวจะน้อยลงหรือถูกจับตามอง ผมเป็นคนรักอิสระและมีกาลเทศะพอที่จะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร คงห้ามไม่ได้ถ้าสื่ออยากเขียนข่าวหรือโปรโมท ถ้าผมกลัว ไม่กล้าไปไหนกับใคร ก็ไม่มีเพื่อนกันพอดี ยอมรับนะครับว่าไม่ได้มีเพื่อนผู้หญิงคนเดียว และเชื่อว่าทุกคนคงมีเพื่อนผู้หญิงหลายๆ คน เพราะทุกคนต้องดูสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุดอยู่แล้ว ยิ่งผมเป็นคนช่างเลือกด้วย
“เมื่อก่อนจะคบใครต้องมีสเป็คว่าผู้หญิงต้องหน้าตาประมาณนี้ แต่จริงๆ แล้วผมชอบผู้หญิงน่ารักมากกว่าผู้หญิงสวย แต่ต้องเป็นคนมั่นใจในตัวเอง รู้กาลเทศะ ไม่ลามปาม ที่สำคัญคือเข้ากับเพื่อนและครอบครัวของผมได้ โดยเฉพาะเพื่อนๆ เพราะผมเป็นคนติดเพื่อนมาก ถ้าผู้หญิงคนไหนเข้ากับเพื่อนไม่ได้ ผมก็คงต้องเซย์กูดบาย ตอนนี้ยอมรับเต็มปากว่าโสดอยู่ครับ”
Kong’s Secrets
เรื่องลับๆ ที่อยากบอก
ผมชอบเอาเสื้อผ้า และแอกเซสเซอรี่ของคุณแม่มาใส่ เคยบอกแม่ด้วยว่า “แม่ไม่ต้องเสียใจเลยที่ไม่มีลูกสาว ของพวกนี้เอามาให้ก้อง เดี๋ยวจัดการเอง การแต่งตัวมันสนุกจริงๆ ครับ”
ถ้าต้องสลับร่างกับผู้หญิงหนึ่งคน จะเลือกใคร
ควีนอลิซาเบธครับ (หยุดคิดแป็บหนึ่ง) เลือก “มาดอนน่า” ดีกว่า เพราะเขาคือควีนออฟร็อคของแท้ ทั้งเก่ง เท่ เก๋า และเป็นไอดอลให้สาวๆ ทั่วโลกมาตั้งแต่ยุค 70 จนถึงตอนนี้ ผมเพิ่งพูดกับเพื่อนว่ามีมาดอนน่าคนเดียวที่ใส่เสื้อผ้าอะไรก็ดูดี คิดดูแล้วกัน ถึงป้าแกจะกลับมาแต่งตัวย้อนยุคแบบแอโรบิคแดนซ์ก็ยังโอเคน่ะ
ชีวิตในแบบที่ก้องต้องการตอนอายุ 60
มีครอบครัวที่อบอุ่น แล้วเล่าเรื่องราวชีวิตของผมให้ลูกๆ หลานๆ ฟังว่าผ่านอะไรมาบ้าง สุดท้ายก็มอบพระเครื่องที่เคยสะสมไว้ให้เป็นมรดก
โรแมนติกที่สุดที่เคยทำให้คนรัก
พาเขาไปดูคอนเสิร์ต พอถึงเพลงช้าอย่าง “Word” ของ F.R.David ที่มีความหมายดีๆ บรรยากาศทุกอย่างเป็นใจ แถมมีคนรักอยู่ข้างๆ แล้วร้องเพลงโปรดด้วยกัน แค่นี้ผมว่าก็โรแมนติกสุดๆ แล้ว
|