กีฬาตะกร้อ เดิมที่เป็นกีฬาที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสมาคมกีฬาไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งนอกเหนือจากกีฬาตะกร้อแล้ว สมาคมกีฬาไทยฯ ยังกำกับดูแลกีฬาหมากรุก
สกา กระบี่กระบอง และว่าวจุฬา-ปักเป้า
โดยมีการจัดการแข่งขันกีฬาดังกล่าวทั้งหมดปีละครั้ง ในช่วงฤดูร้อน
ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายน ของทุกปี ณ บริเวณท้องสนามหลวง
ถือว่าเป็นการจัดการแข่งขันประเพณีกีฬาไทย ต่อมาในปี พ.ศ. 2508 กีฬาเซปักตะกร้อซึ่งชาวไทยเรียกว่าตะกร้อข้ามตาข่าย
ได้ถูกบรรจุเข้าแข่งขันในกีฬาแหลมทองในสมัยนั้น
ซึ่งได้เปลี่ยนเป็นกีฬาซีเกมส์ในปัจจุบัน
ในการแข่งขันทีมนักกีฬาของไทยไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะยังสู้นักกีฬาของประเทศมาเลเซียไม่ได้
เพราะมีการจัดการแข่งขันน้อยมาก 1 ปีมีการจัดการแข่งขันเพียงครั้งเดียว ทำให้การพัฒนาทั้งในด้านนักกีฬาและเทคนิคต่างๆ
เป็นไปอย่างล่าช้า เพราะไม่มีนักกีฬาเล่นกันอย่างแพร่หลาย ทั้งที่เป็นกีฬาที่มีการแข่งขันในระดับนานาชาติแล้ว
สมาคมกีฬาไทย จึงได้มีดำริที่จะพัฒนากีฬาเซปักตะกร้อให้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
และมีนักกีฬาเล่นมากยิ่งขึ้นโดยจัดวางโครงการขึ้น 2 โครงการ คือ
1.
จัดรายการแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยมอบหมายให้ พันเอก เดชา กาลบุตร เลขาธิการสมาคมฯ
ประสานกับสำนักพระราชวัง ขอพระราชทานถ้วยรางวัลจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร
จำนวน 2 ถ้วย เพื่อมอบให้แก่ทีมนักกีฬาที่ชนะเลิศการแข่งขันเซปักตะกร้อ
และตะกร้อลอดห่วง ซึ่งสมาคมกีฬาไทยฯ ก็ได้ดำเนินการจัดการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานฯ
เป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 15-22 กรกฎาคม 2521 ณ สนามยิมเนเซี่ยม
2 สนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2524 แผนกกีฬาตะกร้อ สมาคมกีฬาไทยฯ
ได้แยกออกมาเป็นสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย
เพื่อให้การพัฒนากีฬาเซปักตะกร้อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สมาคมตะกร้อฯ
ก็ได้รับภาระมาดำเนินการจัดการแข่งขันตลอดมา
ปี
พ.ศ. 2535 สมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย
ได้มีการพิจารณาที่จะพัฒนานักกีฬาเซปักตะกร้อระดับเยาวชนให้มีการแข่งขันอย่างกว้างขวาง
เพื่อเป็นแนวทางในการค้นหานักกีฬาดาวรุ่งที่มีอายุน้อยมาทดแทนนักกีฬารุ่นเก่า
ในการเตรียมทีมนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ และเอเชี่ยนเกมส์ ในอนาคต
ประกอบกับปีดังกล่าว ชมรมสมาคมกีฬาสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้ดำริจัดกิจกรรม งานมหกรรมกีฬาสมัครเล่น
เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าบรมราชินีนาถ ในวาระเฉลิมฉลองทรงมีพระชนมายุครบ
60 พรรษา สมาคมตะกร้อฯ โดย พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ นายกสมาคมฯ
จึงได้ประสานขอพระราชทานถ้วยรางวัลจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช
สยามมกุฏราชกุมาร เพิ่มอีก 1 ถ้วย เพื่อเป็นรางวัลให้กับทีมนักกีฬาที่ชนะเลิศเซปักตะกร้อประเภทเยาวชนชาย
อายุไม่เกิน 20 ปี ในการแข่งขันงานมหกรรมกีฬาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าบรมราชินี-นาถ
ของชมรมสมาคมกีฬาสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 16-25 เมษายน 2535 ณ ยิมเนเซี่ยม 1 สนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน
และได้ถูกบรรจุเข้าร่วมกับการจัดการแข่งขันตะกร้อชิงถ้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ต่อมาจนถึงทุกวันนี้
2.
โครงการเตรียมทีมชาติไทยต่อเนื่อง โดยสร้างทีมนักกีฬาทีมชาติไทยขึ้นมา 2 ชุด
แยกเป็นทีมชาติไทยชุอเอ.
ซึ่งเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน และทีมชาติไทยชุดบี.
ซึ่งเป็นนักกีฬาดาวรุ่งที่มีความสามารถไว้คอยทดแทนนักกีฬาทีมชาติไทยชุอเอ. ที่หมดสภาพ
การดำเนินการจัดการแข่งขันตะกร้อชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร สมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย
ได้ดำเนินการจัดการแข่งขันเป็นประจำทุกปี จนถึงปัจจุบัน
|