ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้มสำคัญ พร้อมขยับขึ้นอันดับที่ 4 หลังบุกไปเอาชนะบอร์นมัธได้อย่างถล่มทลาย 4-0 ในเกมที่ 18 ของพรีเมียร์ลีก
รายชื่อนักเตะ
11 ตัวจริง: มินโญเลต์, โกเมซ, ลอฟเรน, คลาวาน, โรเบิร์ตสัน, เฮนเดอร์สัน ©, ไวจ์นัลดุม, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, คูตินโญ่, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่
สำรอง: คาริอุส, มิลเนอร์, มาเน่, ลัลลานา, อิงส์, โซลันเค่ และอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนแปลงทีม 4 ตำแหน่งในเกมกับบอร์นมัธ โดยส่ง โกเมซ, เฮนเดอร์สัน, มินโญเลต์ และอ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน สู่ 11 ตัวจริง และลัลลานากลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรองในคืนนี้
จังหวะสำคัญในเกม
- นาที 20 คูตินโญ่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-1
- นาที 26 ลอฟเรนโหม่งให้ลิเวอร์พูลนำ 0-2
- นาที 44 ซาลาห์ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-3
- นาที 66 เฟอร์มิโน่โหม่งให้ลิเวอร์พูลนำ 0-4
เกมในครึ่งแรก
ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมที่ 18 ในพรีเมียร์ลีก โดยมีเดิมพันคือการขยับขึ้นอันดับที่ 4 เหนืออาร์เซนอล หากสามารถคว้าสามแต้มได้
ในช่วง 5 นาทีแรก ลิเวอร์พูลพยายามแทงบอลตัดแนวรับของเจ้าบ้าน แต่บอร์นมัธยังสกัดบอลจังหวะสุดท้ายไว้ได้ และในขณะเดียวกันก็พยายามหาช่องเพื่อเล่นในจังหวะโต้กลับ
คูตินโญ่พยายามจ่ายบอลทะลุไปให้เฟอร์มิโน่ที่ขึ้นมาทางขวา แต่จังหวะป้ายกลับ เข้ามือผู้รักษาประตูที่ออกมาตัดบอลไวได้ในนาที 9 และลิเวอร์พูลมาได้ฟรีคิกในนาที 10 หลังแนวรับเจ้าบ้านตัดบอลพลาด คูตินโญ่ทำชิ่งกับอ็อกซ์ ก่อนโยนให้เฟอร์มิโน่ และถูกอาร์เก้เข้าสกัด คูตินโญ่รับหน้าที่ยิงฟรีคิก บอลพุ่งชนเสา และกระดอนออกไป ก่อนที่คูตินโญ่จะได้บอลและยิงอีกครั้ง แต่ไม่เข้ากรอบ
กรรมการให้ลอฟเรนฟาวล์ในจังหวะเคลียร์บอลในนาที 14 บอร์นมัธได้ฟรีคิกนอกกรอบ ไอบ์เปิดเรียดไปติดแนวรับลิเวอร์พูล และลูกยิงไกลของไอบ์ในนาที 18 เข้ามือมินโญเลต์
ลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาที 20 เมื่อคูตินโญ่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวก่อนจะยิงเรียดผ่านเบโกวิชเข้าไปอย่างสวยงาม จากนั้นซาลาห์มีโอกาส แต่บอลไม่เข้ากรอบ รวมทั้งในนาที 25 ที่เฮนเดอร์สันส่งให้เฟอร์มิโน่ แต่ยิงติด และออกหลัง ลิเวอร์พูลได้เตะมุม และเป็นลอฟเรนที่โหม่งเข้าไปในนาที 26 ให้ทีมนำ 2-0
หลังจากทีมเยือนขึ้นนำ เจ้าบ้านพยายามโหมขึ้นบุกในนาที 35 แต่ถูกแนวรับลิเวอร์พูลเคลียร์บอลออกมาได้หมด และในนาที 39 เดโฟ ได้โอกาสทอง ยิงผ่านมือมินโญเลต์ แต่บอลพุ่งชนเสาและกระดอนออกมา ไม่มีเพื่อนขึ้นมาซ้ำ
หลังจากเกือบเสียประตู ในนาที 40 อ็อกซ์ได้โอกาสยิง แต่ยังตรงตัวเบโกวิช ก่อนจะขึ้นบุกต่อเนื่อง และได้เตะมุม แต่นักเตะบอร์นมัธลงมาช่วยกันรับจนซาลาห์ที่ได้บอล ไม่มีโอกาสยิง
ลิเวอร์พูลตัดบอลได้และเล่นเกมโต้กลับในนาที 43 และซาลาห์ได้โอกาสยิง หลังจากได้บอลมาจากการประสานงานของเฟอร์มิโน่ และคูตินโญ่ที่หยอดมาให้ซาลาห์ทะลุกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิง แต่ตรงตัวเบโกวิช
อีกเพียงนาทีถัดมา ซาลาห์ทำประตูที่ 14 ในลีกได้อย่างสวยงาม หลังจากล็อคหลบก่อนล้มตัวยิงเข้าไปอย่างสวยงาม และยังเป็นการทำ 20 ประตูให้ลิเวอร์พูล รวมทุกรายการ
เกมในครึ่งหลัง
บทเรียนในการมาเยือนไวทัลลิตีเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่ทีมพ่ายไป 4-3 ทำให้ลิเวอร์พูลไม่ผ่อนเกม แม้จะนำถึง 3-0 แล้วก็ตาม และในนาที 52 เฟอร์มิโน่เกือบได้โอกาสฉกบอลหลังเบโกวิชสื่อสารไม่เข้าใจกับฟรานซิส และอ็อกซ์มีโอกาสใกล้เคียงมากๆ ในนาที 59 เมื่อเลี้ยงบอลจี้เข้าไปในเขตโทษ ก่อนที่จะยิงไปชนเสา
ในทางกลับกัน เดโฟมีโอกาสยิงในนาที 60 แต่มินโญเลต์ปัดทิ้งไปได้ และในนาที 62 ไอบ์ได้บอลหลังคูตินโญ่เสียบอลกลางสนาม แต่โรเบิร์ตสันลงมาสกัดไว้ได้ก่อน และจังหวะเตะมุมหลังจากนั้นไม่มีจังหวะอันตรายใดๆ
ลิเวอร์พูลมาได้ประตูที่ 4 ในเกม ในนาที 66 เมื่อคูตินโญ่วางบอลโด่งไปหน้าประตูให้เฟอร์มิโน่โฉบขึ้นไปโหม่งเช็ดเปลี่ยนทางก่อนที่บอลจะหนีมือเบโกวิชเข้าไป
หลังจากนั้นคล็อปป์ส่งลัลลานาลงมาในนาที 70 แทนซาลาห์ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมวันนี้
ลัลลานาเข้าสกัดไอบ์ ได้รับใบเหลืองในนาที 72 แต่ทีมสามารถช่วยเคลียร์ลูกฟรีคิกออกมาได้ และคูตินโญ่เกือบทำประตูได้ในนาที 74 จากนั้นคล็อปป์ส่งโซลันเค่ลงมาแทนเฟอร์มิโน่ในนาที 76
คูตินโญ่ได้ยิงในนาที 86 แต่บอลไม่เข้ากรอบ ก่อนที่คล็อปป์จะส่งอิงส์ลงมาแทน และในนาที 87 อิงส์ได้บอลจากลัลลานา แล้วจับก่อนยิงด้วยซ้าย แต่บอลเฉียดโคนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
กรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 3 นาที
จบเกม ลิเวอร์พูลลงเล่นไป 18 เกม เก็บไปได้ 34 คะแนน อยู่อันดับที่ 4 เหนืออาร์เซนอล 1 แต้ม โดยนัดต่อไปลิเวอร์พูลจะไปเยือนเอมิเรตส์ สเตเดียม ในคืนวันที่ 22 ธันวาคม (ตามเวลาประเทศอังกฤษ)
คอมเมนต์ที่นี่